เลือดกำเดาไหล Epistaxis

เลือดกำเดาไหล Epistaxis

เลือดกำเดาไหล คืออะไร

Epistaxis หรือที่เรียกกันทั่วไปว่าเลือดกำเดาไหล เป็นภาวะทางการแพทย์ที่พบได้บ่อยซึ่งส่งผลต่อคนทุกวัย แม้ว่าอาการเลือดกำเดาไหลมักไม่ร้ายแรง แต่เลือดกำเดาไหลอาจทำให้ไม่สงบและจำเป็นต้องพบแพทย์ในบางครั้ง การทำความเข้าใจสาเหตุ ทางเลือกในการรักษา และมาตรการป้องกันภาวะกำเดาไหลสามารถช่วยบุคคลในการจัดการและบรรเทาอาการที่น่ารำคาญนี้ได้

สาเหตุของเลือดกำเดาไหล

เลือดกำเดาไหลเกิดขึ้นเมื่อหลอดเลือดในโพรงจมูกแตก ทำให้มีเลือดออกจากจมูก มีหลายปัจจัยที่สามารถนำไปสู่การพัฒนา epistaxis

  • อากาศแห้ง: การสัมผัสกับสภาพแวดล้อมที่แห้งหรือมีความชื้นต่ำอาจทำให้เยื่อจมูกแห้งและมีเลือดออกได้ง่ายขึ้น
  • การบาดเจ็บที่จมูก: การบาดเจ็บที่จมูก เช่น จากอุบัติเหตุ กิจกรรมกีฬา หรือการแคะจมูก สามารถทำลายหลอดเลือดและทำให้เลือดกำเดาไหลได้
  • การติดเชื้อในจมูก: การติดเชื้อในโพรงจมูก เช่น ไซนัสอักเสบหรือริดสีดวงจมูก อาจทำให้เกิดการอักเสบและการระคายเคือง ทำให้หลอดเลือดแตกได้ง่ายขึ้น
  • การแพ้จมูก: การแพ้ตามฤดูกาลหรืออาการแพ้สารระคายเคืองอาจทำให้เกิดอาการคัดจมูกและสั่งน้ำมูกบ่อยๆ ซึ่งอาจส่งผลให้เลือดกำเดาไหล
  • ความดันโลหิตสูง: ความดันโลหิตสูงที่ไม่สามารถควบคุมได้อาจเพิ่มแรงกดดันต่อหลอดเลือด รวมทั้งหลอดเลือดในจมูก เพิ่มโอกาสเลือดออก
  • ความผิดปกติของเลือด: ความผิดปกติของเลือดบางอย่าง เช่น ฮีโมฟีเลียหรือความผิดปกติของการแข็งตัวของเลือด สามารถทำให้บุคคลมีแนวโน้มที่จะมีเลือดกำเดาไหล
  • ยา: ยาบางชนิด เช่น ยาต้านการแข็งตัวของเลือดหรือยาทำให้เลือดบาง อาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการมีเลือดออก รวมถึงเลือดกำเดาไหล
เลือดกำเดาไหล Epistaxis

การรักษาเลือดกำเดาไหล

เลือดกำเดาไหลส่วนใหญ่สามารถจัดการได้ที่บ้านโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงทางการแพทย์ ต่อไปนี้เป็นขั้นตอนที่ต้องปฏิบัติตามหากคุณมีเลือดกำเดาไหล

  • นั่งตัวตรง: อยู่ในท่านั่งหรือเอนไปข้างหน้าเล็กน้อยเพื่อป้องกันไม่ให้เลือดไหลลงคอ ซึ่งอาจทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ได้
  • บีบจมูก: ใช้นิ้วหัวแม่มือและนิ้วชี้บีบส่วนที่อ่อนนุ่มของจมูกใต้ดั้ง กดค้างไว้ประมาณ 5-10 นาที เพื่อช่วยห้ามเลือด
  • หลีกเลี่ยงการเอียงหลัง: หลีกเลี่ยงการเอียงศีรษะไปข้างหลัง เพราะอาจทำให้เลือดไหลลงคอได้
  • ประคบน้ำแข็ง: การประคบน้ำแข็งหรือผ้าเย็นที่ดั้งจมูกสามารถช่วยบีบรัดหลอดเลือดและลดเลือดออกได้
  • ทำให้โพรงจมูกชุ่มชื้น: ใช้น้ำเกลือพ่นจมูกหรือทาปิโตรเลียมเจลลี่บาง ๆ ภายในรูจมูกเพื่อให้เยื่อจมูกชุ่มชื้นและป้องกันความแห้ง
  • ไปพบแพทย์: หากเลือดไหลไม่หยุดหลังจากออกแรงกดเป็นเวลา 20 นาที หรือหากเลือดกำเดาออกมาพร้อมกับอาการปวดอย่างรุนแรง เวียนศีรษะ หรือเสียเลือดมาก ให้ไปพบแพทย์ทันที
เลือดกำเดาไหล Epistaxis

การป้องกันเลือดกำเดาไหล

แม้ว่าสาเหตุของเลือดกำเดาไหลบางอย่าง เช่น อุบัติเหตุหรือความผิดปกติของเลือด อาจอยู่เหนือการควบคุม มาตรการป้องกันหลายอย่างสามารถลดความเสี่ยงของการเกิด epistaxis

  • ทำให้อากาศชื้น: ในสภาพแวดล้อมที่แห้ง โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาว ให้ใช้เครื่องทำความชื้นเพื่อเพิ่มความชื้นในอากาศและป้องกันไม่ให้โพรงจมูกแห้ง
  • อ่อนโยนกับจมูก: หลีกเลี่ยงการแคะหรือสั่งน้ำมูกแรงๆ เพราะการกระทำเหล่านี้อาจทำลายหลอดเลือดและทำให้เลือดกำเดาไหลได้
  • ใช้น้ำเกลือพ่นจมูก: การใช้น้ำเกลือพ่นจมูกเป็นประจำสามารถช่วยให้โพรงจมูกชุ่มชื้นและลดความเสี่ยงของการมีเลือดออก
  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อรักษาความชุ่มชื้นให้เพียงพอ ซึ่งสามารถป้องกันอาการจมูกแห้งได้
  • จัดการอาการแพ้: หากคุณมีอาการแพ้ทางจมูก ให้ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพเพื่อจัดการกับอาการของคุณและลดการระคายเคืองจมูก
  • หลีกเลี่ยงสารระคายเคือง: หลีกเลี่ยงสารระคายเคืองในสิ่งแวดล้อม เช่น ควัน กลิ่นแรง หรือสารเคมี ที่สามารถระคายเคืองโพรงจมูก

 

เลือดกำเดาไหล Epistaxis

บทสรุป

เลือดกำเดาไหลหรือเลือดกำเดาไหลเป็นเรื่องปกติและมักไม่เป็นอันตราย อย่างไรก็ตาม อาจทำให้รู้สึกไม่สบายตัวและในบางกรณีจำเป็นต้องได้รับการดูแลจากแพทย์ การทำความเข้าใจสาเหตุที่อาจเกิดขึ้น มาตรการรักษาที่เหมาะสม และการดำเนินการป้องกันจะช่วยให้บุคคลสามารถจัดการกับเลือดกำเดาไหลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกรณีส่วนใหญ่ เลือดกำเดาไหลสามารถรักษาได้ที่บ้านด้วยขั้นตอนง่ายๆ แต่การขอคำแนะนำจากแพทย์เป็นสิ่งสำคัญหากเลือดออกยังคงอยู่หรือหากมีความกังวลด้านสุขภาพ โดยปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและรักษาสุขอนามัยของจมูกที่ดี บุคคลสามารถลดการเกิด epistaxis และเพลิดเพลินกับสุขภาพจมูกที่ดีขึ้น

เลือดกำเดาไหล Epistaxis

ติดตามยารักษาโรค : คลังยาและเวชภัณฑ์

ติดตามเทคโนโลยีสุขภาพ : Guruit